UFABETWINS ถ้าพรีเมียร์ลีกเป็นโมฆะ

UFABETWINS

UFABETWINS  ลิเวอร์พูล ยังไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการก็จริง แต่มองมุมไหนก็ไม่มีทางพลาดจนสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าถ้าพลาดก็เอาตีนมาเหยียบหน้ากันได้เลย

อย่างไรก็ตาม ความจริงคือพวกเขายังไม่ได้แชมป์แบบเป็นทางการ

เหมือนการนำคู่แข่งอย่างขาดลอย ด้วยสกอร์ถึง 5-0 โดยเหลือเวลาการแข่งขันอีกไม่ถึง 5 นาที แล้วดันทะลึ่งเกิดเหตุบางอย่างจนจำเป็นต้องยกเลิกเกมนั้นก่อนหมดเวลานั่นแหละ

มันก็ถือว่าคุณยังไม่ชนะ และคุณยังเอาชนะคู่แข่งไม่สำเร็จ…ใช่ไหมครับ

ถ้าพรีเมียร์ลีกเป็นโมฆะ

ตามทฤษฎี และตามหลักคณิตศาสตร์ของคุณครูปรีชา ลิเวอร์พูล ต้องการชัยชนะอีกเพียงแค่ 2 นัดเท่านั้นก็จะคว้าแชมป์แบบเป็นทางการ หรือบางทีอาจเหลือแค่เกมเดียวด้วยซ้ำ (ในกรณีที่ แมนฯ ซิตี้ สะดุดตีนตัวเองอีกครั้ง) หากไม่มีการระงับการแข่งขัน เพื่อหนีไวรัสมหาประลัยซะก่อน อย่างไรก็ต้องได้แชมป์แน่ๆ

โอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะบุกไปเหยียบจมูก เอฟเวอร์ตัน ถึงถิ่น ก่อนเปิดบ้านเชือด…เชือดนิ่มๆ ผู้มาเยือนอย่าง คริสตัล พาเลซ ในเกมต่อมาไม่น่าจะใช่ปัญหาอะไรของพวกเขา

ไม่เพียงแต่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการ บางทีพวกเขาอาจสร้างสถิติใหม่ด้วยการสะสมแต้มมากที่สุด ทะลุ 100 แต้ม – คว้าแชมป์อย่างรวดเร็วที่สุด และเอาชนะคู่แข่งได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ แถมไม่มีรายการอื่นมารบกวน นอกจากพรีเมียร์ลีกเพียงรายการเดียว

หากไอ้ไวรัสเฮงซวยอะไรนั่นมันบุกมาเล่นงานเกาะมหาสมบัติ หลังจากที่ ลิเวอร์พูล ทำแต้มขาดไปแล้ว

สถานการณ์คงเปลี่ยนไปในอีกรูปแบบ

คือต่อให้มีการระงับการแข่งขัน ตัดจบ ยกเลิก หรือไม่แข่งต่อ ก็ถือว่า ลิเวอร์พูล ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกไปเรียบร้อยอย่างบริบูรณ์แบบแล้ว

ถ้าเป็นเช่นนั้น พรีเมียร์ลีกสามารถ “ตัดจบ” ได้ทันที โดยที่ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ไปครองเรียบร้อย ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่นอันดับในตาราง ไม่ว่าจะท็อปโฟร์ เพื่อไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หรืออันดับที่ต้องตกชั้นก็ค่อยมาหาทางออกกันทีหลัง

อย่างน้อยๆ ลิเวอร์พูล ก็ลอยตัวไปแล้วหนึ่งทีม
.
ทีนี้ขอสมมุตินะครับ

ย้ำอีกครั้งและอีกครั้งและอีกครั้งว่า…สมมุติ…สมมุติ…สมมุติ

สมมุติว่าถ้าศึกพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาล 2019-20 มีอันต้องเป็นโมฆะด้วยเหตุสุดวิสัย หมายความว่าทุกอย่างที่ผ่านมาทั้งหมดในฤดูกาลนี้กลายเป็นโมฆะ ไม่มีการนับผลการแข่งขัน ไม่มีแชมป์ ไม่มีการตกชั้น และไม่มีการเลื่อนชั้น โดยไปเริ่มต้นกันใหม่ทั้งหมดในฤดูกาลหน้า

ถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ ลิเวอร์พูล ???

อืมมมมมม…นะ

ก่อนอื่นขอย้อนเวลากลับไปเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่พลพรรคเครื่องจักรสีแดงอุตส่าห์สะสมได้มากมายเป็นประวัติการณ์ถึง 97 แต้มแล้วไม่ได้แชมป์…ซะอย่างนั้น

ด้วยความอัดอั้นตันตูดบนความน่าเจ็บใจอย่างสุดซึ้ง มันแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานในการขับเคลื่อนที่มีอานุภาพรุนแรง และกะซวกไส้ดีนักแล

ด้วยฟอร์มการเล่นที่กำลังร้อนแรงอยู่แล้วบวกกับแรงระเบิดแบบภูเขาไฟทลายโลกา ลิเวอร์พูล จึงกลายร่างเป็น “สิบล้อเบรคแตกเมายาบ้า” อย่างที่เห็นกันในฤดูกาล 2019-20 นี่แหละ

ผมต้องการจะสื่อว่าเพราะความผิดหวังของพวกเขานี่แหละครับ ไม่ต่างจากแรงระเบิดที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล พุ่งเข้าชนและวิ่งเข้าใส่ชัยชนะแบบไม่ยั้งหยุดแบบนี้

แต่หากเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ฤดูกาลนี้ถูกประกาศให้เป็นโมฆะจนแชมป์พรีเมียร์ลีกที่รอคอยหลุดออกจากมือของพวกเขาไปอีกครั้งล่ะ

ถามว่าฤดูกาลหน้า ลิเวอร์พูล จะยังคงเดินหน้าด้วยเร็ว-แรง แบบทะลุส้นตีนพลางพุ่งทะยานเข้าหาเส้นชัยโดยทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่นเหมือนในฤดูกาลนี้อีกหรือเปล่า ???

จุดนี้น่าคิดนะครับ

เพราะอารมณ์และความรู้สึกมันจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง !!!

ฤดูกาล 2018-19 ลิเวอร์พูล สะสมได้ถึง 97 แต้ม น้อยกว่าแชมป์อย่าง แมนฯ ซิตี้ เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น เข้าใจครับว่ามันทั้งน่าเสียดายและน่าเจ็บใจ แต่พวกเขาคงไม่ได้เสียจงเสียใจอะไรมากมาย

ก็เหมือนอย่างที่เด็กหงส์ส่วนใหญ่รู้สึกนั่นแหละครับ ไม่ได้แชมป์ แต่ไม่เสียใจ เพราะผลงานโดยรวมของทีมรักสร้างความสุขและเสียวซ่านให้พวกเขาเกือบทุกสัปดาห์

เท่านั้นไม่พอ

ถ้าพรีเมียร์ลีกเป็นโมฆะ

ความน่าเสียดายและน่าเจ็บใจถูกเปลี่ยนเป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนผสมผสานกับฟอร์มการเล่นในช่วงปลายฤดูกาลที่ร้อนแรง และต่อเนื่อง ส่งผลให้ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ พุ่งกระฉูดออกจากจุดสตาร์ทในฤดูกาล 2019-20 แบบสิบล้อเบรคแตกที่อัดยาบ้าเข้าไปทีเดียว 300 เม็ด ทะลวงทุกอย่างที่ขวางหน้า

สังเกตได้ว่าพวกเขาแสดงออกมาทั้งความมุ่งมั่นและทุ่มเทแบบเต็ม 80,000 ตีนถีบ ว่าแล้วก็เน้นหนักไปที่การไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกเพียงรายการเดียว โดยสลัดถ้วยเล็กถ้วยน้อยอย่าง ลีก คัพ กับ เอฟเอ คัพ ทิ้งไปพลางยักไหล่แบบไม่แยแสว่ามันจะทำให้ตัวเองก้าวไกลถึง “ทริปเปิ้ลแชมป์”

ลิเวอร์พูล ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น นอกจากพรีเมียร์ลีกแบบลืมติ๋ม แถมให้ความสำคัญกับมันมากกว่า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ตัวเองเป็นแชมป์เก่าด้วยซ้ำ

พูดง่ายๆ ว่า…กูจะเอาแชมป์รายการนี้ให้ได้เพียงสถานเดียวเท่านั้น ขณะที่ถ้วยใหญ่ยุโรปถือเป็นโบนัส ถ้าไม่ได้ก็ไม่ซีเรียสอะไรมากนัก

“เครื่องจักรสีแดงผู้อหังการ” ทำสถิติชนะติดต่อกัน 8 นัดในพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่ออกสตาร์ท ก่อนถูกคั่นด้วยการเสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด และหลังจากนั้นก็ทำสถิติชนะรวดอีกถึง 18 นัดติดต่อกัน

ศึกพรีเมียร์ลีกผ่านไป 27 นัด ลิเวอร์พูล ทำสถิติชนะ 26 นัด หลุดเสมอแค่เกมเดียว นี่คือสถิติที่ต้องอุทานเป็นภาษามอนเตเนโกรว่า…เจ๊ตเข้ !!!

ก่อนหยุดพักหลบเลี่ยงไวรัส หลังจบเกมที่ 29 ของพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล ทำสถิติชนะ 27 นัด เสมอ 1 นัด แพ้ 1 นัด ทิ้งห่างทีมตามอย่าง แมนฯ ซิตี้ ถึง 25 แต้ม และกำลังจะคว้าแชมป์ที่รอยคอยมานาน 30 ปีอย่างเป็นทางการ

แต่หากเกิดเหตุสุดวิสัยจนทำให้ฟุตบอลลีกสูงสุดของอังกฤษกลับมาเผดียงแข้งกันต่อไม่ได้ และต้องกลายเป็นโมฆะ

คุณคิดว่าสภาพจิตใจของพวกเขาจะเป็นเหมือนตอนที่แพ้ แมนฯ ซิตี้ อย่างเฉียดฉิวแค่แต้มเดียวในตอนจบฤดูกาล 2018-19 หรือเปล่า ???

แล้วคุณคิดว่าความผิดหวังแบบนี้ที่โลกช่างโหดร้ายและโรคจิตเหลือคณา มันจะกลายเป็นทั้งแรงผลักดันให้พวกเขาขับเคลื่อนด้วยความเร็วแรงอีกครั้งเหมือนในฤดูกาลนี้หรือเปล่า ???

บางทีมันอาจมองได้ 2 มุม

มุมหนึ่งคือ…ไม่

เพราะความผิดหวังแบบนี้ มันอาจทำให้พวกเขาเตลิดเปิดเปิงออกอ่าวออกทะเลไปเลย…ก็..เป็น..ได้

พุทโธ่…ก็อุตส่าห์สะสมมากมายถึง 97 แต้ม ไม่ได้แชมป์ ไม่ว่าอะไร แล้วลุกขึ้นสู้ใหม่จนกำลังจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่อยู่รอมร่อแท้ๆ แต่เหมือนนรกชังและสวรรค์แกล้งจนมีอันให้ต้องชวดแชมป์อีกครั้ง…ซะอย่างนั้น

แบบนี้ใครมันจะไปทนได้วะ

ประหนึ่งถูกคุณลุงของตัวเองที่เป็นเด็กผีข่มขืนทางประตูหลังแบบซ้ำแล้วและซ้ำเล่าจนหมดกำลังใจในการตามล่าความสำเร็จ

ชีวิตนี้มันชาางเริงระบำดำรู พรูควั่งถั่งนรก แลสวรรค์ ฤาจะเริดรมเยศ เสพสม บ่มีสม จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ผู้เล่นในเครื่องนุ่งห่มหงส์แดงจะเกิดความท้อแท้ขึ้นในสภาวะจิต หมายเลข 1/2020 และนั่นหมายความว่า…

หมายความว่า…และหมายความว่า…

ถ้าพรีเมียร์ลีกเป็นโมฆะ

อีกมุมหนึ่งคือสภาพจิตใจของพวกเขายังคงแข็งแกร่งยิ่งนัก เนื่องจากผ่านมาเยอะ และเจ็บมาเยอะ

คือยิ่งถูกทำร้ายจิตใจแบบซ้ำแล้วและซ้ำเล่ามากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งแปรเปลี่ยนเป็นแรงผลักดันที่มีพลังงานมหาศาลยิ่งกว่าเดิมมากเท่านั้น

อารมณ์ประมาณว่ามึงแกล้งกูได้แกล้งกูไป ดูสิว่าคราวนี้จะเอาอะไรมาขัดขวางกูอีก

เพราะด้วยสภาพทีมที่แข็งแกร่ง ด้วยฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวา และด้วยการมีผู้นำทางจิตวิญญาณที่หนักแน่นในสไตล์โลหะหนักอย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์

ส่วนคู่ขับเคี่ยวของพวกเขาและนาทีนี้ก็คงมีอยู่แค่ แมนฯ ซิตี้ เพียงทีมเดียวเหมือนเดิม

ฉะนั้น & ฉะนี้

คอลัมนิสต์ลูกหนังผู้มีอาการทางจิตเล็กน้อยอย่างผมยังเชื่อว่าต่อให้พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เป็นโมฆะ ลิเวอร์พูล ก็จะกลับชาติมาเกิดใหม่ในฤดูกาลหน้าอีกครั้งแบบเอาให้มันรู้กันไปว่าคราวนี้ไอ้พวกคนบนฟ้าหรือไอ้เหี้ยไอ้ห่าในอเวจีมันจะเอาอะไรมากลั่นแกล้งพวกกูอีก แม้พลังอำนาจของ ลิเวอร์พูล หลังความบอบช้ำครั้งนี้อาจจะอ่อนล้าและไม่รุนแรงเหมือนเดิมก็ตาม

อดทนรอกันอีกสักนิดนะครับ…เด็กหงส์

 

คลิกเลย >>>  ข่าวบอล

คลิกเลย >>>  https://www.kitchenremodelingpa.com/